เรื่องผี : โรงเรียนหรือลานประหาร ?

หวยออนไลน์ยี่กี่ครบเครื่องต้อง lottovip

    เรื่องผีเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านสายไหม มีเรื่องเล่ากันในหมู่นักเรียนว่า เดิมทีโรงเรียนแห่งนี้เคยเป็นคุกและเป็นลานประหารมาก่อนในอดีต เหล่านักเรียนซ่าชอบความท้ายทายจึงอยากพิสูจน์ ว่าจะเฮี้ยนสักแค่ไหน    ในกลางดึกคืนหนึ่ง มีนักเรียนกลุ่มหนึ่ง แอบปีนกำแพงเข้ามาทางด้านหลังโรงเรียน เพื่อที่จะมาทำกิจกรรมสุดฮิตในสมัยนั้น นั่นคือการล่าท้าผี เด็กกลุ่มนั้นก็เดินสำรวจโรงเรียนยามวิกาลไปเรื่อย ก็ไม่พบอะไรพิศวง จนไปเจอ ลุงคนหนึ่ง เด็กกลุ่มนั้นเข้าใจว่าคงเป็น รปภ. ตอนแรกก็กลัวจะถูกจับได้ จึงคิดจะหนี แต่แล้วก็มีเด็กคนหนึ่งบอกว่าจะหนีทำไม พร้อมกับหยิบเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ออกมาจากกระเป๋า และเดินไปหา รปภ. คนนั้น พร้อมถามว่า ลุงยาม โรงเรียนนี้มีที่ไหนเฮี้ยนๆบ้าง ลุงยามบอก ที่เฮี้ยนที่สุดก็ตรงที่พวกเอ็งอยู่นี่แหละ แล้ว คอของ รปภ. คนนั้น ก็ค่อยๆหลุดออกมาจนหล่นพื้นไปต่อหน้าเด็กนักเรียนกลุ่มนั้น สำหรับใครที่ต้องการสมัครเล่นหวย วันนี้เรามีเว็บ แทงหวยออนไลน์ ดีๆมาแนะนำให้ท่านได้รู้จักนั่นคือ เว็บlottovip เว็บหวยออนไลน์อันดับหนึ่งในไทยนั่นเอง เว็บดีที่จ่ายเต็มไม่มีเลขอั้นมีหวยครบ หวยฮานอย หวยลาว หวยมาเลย์ เปิดรับแทงตลอด 24ชั่วโมง

โรงพยาบาลผีสิง

    แค่ขึ้นชื่อว่าโรงพยาบาล ใครต่อใครถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากไป เพราะเหตุที่ไป ส่วนใหญ่คงหนีไม่พ้นเรื่องของการเจ็บไข้ได้ป่วย แต่นี่ยังเป็นโรงพยาบาลผีสิง  ที่ว่ากันว่า เฮี้ยนสุดๆ แล้วทีนี้ใครจะอยากไปอีก      โรงพยาบาลผีสิง มีมากมายหลายที่ในประเทศไทย แต่ที่ๆใครหลายต่อหลายคนบอกว่า เฮี้ยนและผีดุที่สุดในประเทศไทยนั้น ต่างยกให้เป็นโรงพยาบาลร้างแห่งหนึ่ง ในจังหวัด ระยอง     อดีตโรงพยาบาลเอกชน ที่ปัจจุบันถูกทิ้งไว้เป็นเพียงตึกร้าง ตั้งอยู่ในอำเภอ เมือง จังหวัด ระยอง มีเรื่องของชาวบ้านและคนละแวกนั้นว่า เคยเห็น ผีพยาบาลเข็นรถคนไข้ไปมาอยู่ภายในโรงพยาบาล ทั้งที่ที่แห่งนี้ถูกทิ้งร้าง ไม่มีใครมาหลายปีแล้ว หรือได้ยินเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด ชวนขนหัวลุก ดังออกมาจากโรงพยาบาลที่ว่า โดยที่ไม่รู้ต้นเสียงคือใคร และยังมีเหตุการณ์อีกหลายเหตุการณ์ที่ชวนหวาดหวั่น จนไม่มีชาวเมืองคนไหนอยากผ่านเส้นทางนี้ไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน อาจเป็นเพราะเรื่องเล่าสยองหรือเพราะตัวแผงผัง ที่ตั้งห้องดับจิตไว้แปลกที่ แปลกที่ว่าก็คือ แค่ขับรถผ่านก็สามารถมองเห็นตะแกรงวางศพที่ยื่นออกมาจากช่องเย็นในห้องดับจิตได้ ในขณะที่เราอยู่บนท้องถนนได้เลยทีเดียว     เคยมีเรื่องเล่าว่า พล (นามสมมติ) อาศัยอยู่ในจังหวัดระยอง อยู่ใกล้ๆบริเวณโรงพยาบาลร้างที่ว่า ได้มีเพื่อนของพล ชื่อ อาสา (นามสมมติ) แวะมาหาที่บ้าน … Read more

วัดผีเฮี้ยน

    ทั่วทั้งมุมโลกนั้น มีตำนานเรื่องเล่าลี้ลับมากมายที่ยังรอการพิสูจน์ ไม่เว้นแม้กระทั่งเมืองไทยบ้านเรา ซึ่งมีตำนานหลายตำนาน ที่ผ่านการบอกเล่ากันปากต่อปาก โดยเฉพาะเรื่องลี้ลับอย่างเรื่องผีสางนางไม้ และสถานที่ๆมีเรื่องเล่าประเภทนี้มากที่สุด ก็หนีไม่พ้นที่จะเป็นวัด สถานที่ที่ซึ่งเป็นที่สุดท้ายของมนุษย์ที่จะได้อยู่บนโลกของคนเป็น      1. วัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์      เมื่อครั้นอดีตที่ยังใช้ชื่อว่า วัดเมือง จ.ฉะเชิงเทรา นี้มีตำนานหนึ่งที่ถูกกล่าวขาน และตีข่าวไปทั่วบ้านทั่วเมือง ว่ามีวิญญานร้ายคอยออกอาละวาด จนสร้างความหวาดหวั่นแก่ผู้อยู่อาศัยและผู้สัญจรไปมาละแวกนั้น     ตำนานได้เล่าไว้ว่า เมื่อ พ.ศ.2391 หรือ สมัยรัชกาลที่ 3   ณ ลานประหาร ที่วัดปิตุลาธิราชรังสฤษฎิ์ หรือ วัดเมือง จังหวัด ฉะเชิงเทรา เดิมแล้ว สถานที่แห่งนี้ คือลานประหารสำหรับอั้งยี่ หรือ กบฏนั่นเอง โดยทุกศพจะถูกตัวหัวจนขาด และนำไปฝัง โดยไม่มีการทำพิธีศพใดๆทั้งสิ้น และไม่มีผู้ใดกล้านำศพไปกระกอบพิธีเพราะกลัวว่าจะถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด จึงต้องปล่อยให้ผู้คนเหล่านั้นถูกตัดหัวไปต่อหน้าต่อตา    ความตายของอั้งยี่ที่แสนทุกข์ทนทรมาน จิตสุดท้ายของพวกเขา เต็มไปด้วยความโกรธแค้น ชิงชัง และเมื่อวิญญานออกจากร่าง จิตที่ยังยึดติดกับอารมณ์แค้นนั้น … Read more

วัดหลงซาน ดินแดนแห่งสายมู

    นี่คือวัดที่สายมูต้องรู้จัก เพราะวัดนี้ขึ้นชื่อเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ และของขลังต่างๆมากมาย ที่บันดาลพรได้ไม่ว่าจะด้านโชคลาภ การงาน และความรัก เรียกได้ว่าครบทุกวงจรเลยทีเดียว     วัดหลงซาน คือวัดเก่าแก่ประจำเมืองไทเป ที่มีตำนานเรื่องเล่าอันเลืองชื่อ และภายในยังเต็มไปด้วยที่ประดิษฐานของสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเทพเจ้าต่างๆมากมาย    วัดหลงซาน สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1738 ตรงกับรัชสมัยของราชวงศ์ชิง ใช้ระยะเวลาก่อสร้างกว่า 3ปีจึงแล้วเสร็จ โดยผ่านยุคผ่านสมัยมากว่า 260 ปี จึงมีการบูรณะมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ยังไว้ซึ่งศิลปะยุคโบราณ มีเรื่องเล่าว่า เมื่อช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 วัดหลงซานถูกระเบิดลงจนพระอุโบสถเสียหายยับเยิน แต่ทว่า “พระโพธิสัตว์กวนอิม” ที่สถิตอยู่ภายใน กลับไม่ได้รับความเสียหายแม้เพียงนิด เนื่องจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ จึงทำให้ผู้คนต่างเลื่อมใสและศรัทธาในตัววัดมากยิ่งขึ้น    นอกจากพระโพธิสัตว์กวนอิม ที่เป็นดั่งประประธานหลักแล้ว ภายในวัดยังมีรูปปั้นของเทพเจ้าต่างๆจากลัทธิเต๋า อีกมากมายกว่า 165 องค์ ซึ่งถือว่ามากที่สุดในประเทศไต้หวันเลยทีเดียว จนชาวไต้หวันต่างเรียกวัดแห่งเป็น God Shopping Mall วันนี้เรามีเว็บ แทงหวยออนไลน์ ดีๆมาแนะนำให้ท่านได้รู้จักนั่นคือ เว็บเศรษฐี เว็บหวยออนไลน์อันดับหนึ่งในไทยนั่นเอง … Read more

พระพุทธรูปพูดได้แห่งเมืองไทย

    มีตำนานหนึ่งในประเทศไทย ได้กล่าวขานไว้ว่า มีพระพุทธรูปองค์หนึ่งสามารถพูดได้ เมื่อครั้งที่พระนเรศวรมหาราช ได้ยกกองทัพไปปราบกบฏที่เมืองสวรรคโลก ได้มีการเรียกชุมนุมเหล่าแม่ทัพและนายกอง รวมทั้งพลทหารที่วัดศรีชุม ก่อนที่จะไปทำศึกสงคราม แต่ว่าเหล่าทหารทั้งหลายนั้น แลดูไม่ค่อยมีกำลังใจในการทำศึก เหตุเพราะไม่อยากฆ่าฟันกับคนไทยด้วยกันเอง ด้วยปฏิภาณไหวพริบของท่านที่ต้องการสร้างขวัญกำลังใจให้เหล่าทหาร จึดได้จัดพิธีเสี่ยงทายกับพระพุทธรูป โดยได้เสี่ยงทายว่า หากการรบครั้งนี้มีชัย ก็ขอให้พระอจนะจงกล่าวตอบกลับมา แต่หากไม่มีชัย ก็ไม่ต้องตอบกลับ ซึ่งผลก็คือ พระอจนะได้ตอบกลับมาต่อหน้าเหล่าทหารทั้งหลาย เมื่อเป็นเช่นนั้น เหล่าทหารที่ได้ฟังคำกล่าว ต่างล้วนคิดว่านี่คือเสียงของพระอจนะจริงๆ และเชื่อว่านี่คือปาฏิหารย์ของพระอจนะ ส่งผลให้เกิดความฮึกเหิมและสร้างขวัญกำลังใจในการทำศึก    หากแต่ทว่าในความเป็นจริงแล้วนั้น เสียงที่หลาสยคนได้ยินและเข้าใจว่าเป็นของพระอจนะนั้น แท้จริงคือกุศโลบายของพระนเรศวร ที่ได้มีรับสั่งให้คนปีนขึ้นไปซ่อนตัวในช่องอุโมงค์เล็กๆ ด้านหลังเศียรของพระอจนะ และให้คอยส่งเสียงตอบพระนเรศวร และเมื่อเสียงที่ส่งกระทบกับช่องอุโมงค์เล็กนั้น ทำให้เสียงที่ออกมามันกึกก้อง ราวกับเป็นเสียงของพระผู้เป็นเจ้าทำนองนั้น ซึ่งนี่ก็เป็นที่มาของตำนานพระพุทธรูปพูดได้ แห่งวัดศรีชุม วัดศรีชุม     มีลักษณะเป็นโบราณสถานขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในจังหวัดสุโขทัย  ภายในมีมณฑปรูปสี่เหลี่ยมจตุรัสขนาดใหญ่ตั้งบนฐานสูง และภายในมณฑปยังมีพระอจนะ หรือพระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่ประดิษฐานอีกด้วย ซึ่งมองจากภายนอก จะเห็นพระพักตร์พระอจนะ ผ่านช่องมณฑป ซึ่งเป็นจุดเด่นของวัดนี้    สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยพ่อขุนรามคำแหง เพราะมีปรากฏในศิลจารึกสุโขทัยหลักที่ 1 … Read more

8 ข้อห้าม ถ้าอยากถูกหวย

    เราเชื่อว่า ทุกๆวันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือน ยกเว้นวันที่ 1 พฤษภาคม ไว้วันหนึ่งนะ เพราะเค้าเลื่อนไปออกวันที่ 2 แทน โดยวันที่ 1 และ 16 ที่ว่านี้ คือความหวังของมวลมนุษย์ชาวไทยทั้งปวง เพราะนี่คือวันที่ฉลากกินแบ่งรัฐบาลนั้นจะบันดาลความสมหวังให้เราได้  แต่ถ้าใครไม่อยากผิดหวังตั้งแต่ยังไม่ทันเริ่ม ให้ระวังการกระทำเหล่านี้ไว้ เพราะนี่คือสิ่งที่จะมาขัดโชคลาภ ทำให้เราอดเป็นเศรษฐีคนใหม่อย่างแท้จริง  ห้ามปล่อยให้ไฟทางเดินเสีย     เพราะการปล่ออยให้ทางเดินไร้แสงไฟ จะทำให้อนาคตมืดมน แสงสว่างจากโชคลาภไม่สามารถส่องมาถึง ห้ามน้ำรั่วในบ้าน     เชื่อว่า ถ้ามีน้ำรั่วภายในบ้าน จะทำให้เงินทองและโชคลาภนั้นจะรั่วไหล เปรียบดั่งสายน้ำที่ไหลออกไป และไม่ใช่โชคลาภกับเงินทองที่ไหลออก ยังเปลืองค่าน้ำอีกต่างหาก ห้ามปล่อยให้จานที่ใช้แล้วสกปรกทิ้งไว้จนข้ามคืน     ไม่ใช่แค่เรื่องการป้องกันเพียงเชื้อโรคหรือการรักษาความสะอาดเพียงอย่างเดียว เพราะนี่คือ การชำระล้างสิ่งสกปรกจากวันก่อนให้หมดไป เพื่อต้อนรับวันใหม่ให้สดใส สะอาดปราศจากสิ่งมัวหมองทั้งปวง ห้ามวางของเกะกะหน้าบ้านหรือหน้าประตู     เพราะการวางของขวางทางเข้าบ้านนั้น ถือเป็นการปิดกั้นทางเข้าของโชคลาภที่จะไหลมาเทมาสู่ตัวเราและคนในบ้าน แต่ถ้าคนอื่นเอารถมาจอดขวางหน้าบ้าน … Read more

ต้นโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์ ที่อธิษฐานจิตของพระเจ้าตาก

    สมเด็จพระเจ้าตากสิน ได้ปลูกต้นโพธิ์ร่วมกับเหล่าทหารเสือของตนไว้ร่วมกัน 3ต้น ณ วัดกองดินปืน หรือแต่เดิมชื่อว่า วัดคงคาจืด โดยได้ปลูกไว้เพื่อเป็นพุทธบูชา และอธิษฐานจิตสืบบวรพระพุทธศาสนาให้ครบ 5 พันปี    โดยต้นโพธิ์ต้นแรกนั้น เป็นการปลูกร่วมกันของสมเด็จพระเจ้าตากสิน พระเชียงเงิน และพระยาจักรี    ต้นที่ 2 ปลูกโดยพระยาสุรสีหนาท พระยาสีหราชเดโช (พระยาพิชัยดาบหัก) และ หลวงราชเสน่หา    ต้นที่ 3 ปลูกโดย พระเชียงทอง (หลวงพรหมเสนา) ขุนอภัยภักดี หลวงราชภักดิ์    โดยต้นโพธิ์ทั้งสามต้น ถือว่าเป็นต้นโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์ของทางวัด โดยเฉพาะต้นแรกที่อยู่ใกล้โบสถ์       การปลูกต้นโพธิ์สามต้น หมายถึง การสร้างหลักของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และยังหมายถถึงร่มโพธิ์ธรรมของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์     และการใช้คนปลูก 9 คน นั้นหมายถึง ความสำเร็จสูงสุดในทางธรรม หรือเรียกว่า … Read more

10 เครื่องรางของขลังจากสัตว์ (Part 2)

    เครื่องรางของขลังคือสิ่งที่อยู่คู่กับความเชื่อคนไทยมาตั้งแต่สมัยบรรพกาล สืบทอดกันจากรุ่นสู่รุ่น แม้จะไม่มีสิ่งใดพิสูจน์ได้ว่าความเชื่อเหล่านั้น นั้นแท้จริงหรือหลอกลวง แต่สิ่งเหล่านี้นั้นยังคงเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวของคนไทยเสมอมา    เครื่องรางของขลังล้วนมีที่มาจากหลากหลายที่มา มีทั้งสร้างขึ้นเอง หรือกำเนิดจากธรรมชาติ และวันนี้เราจะขอนำเสนอเครื่องรางของขลังที่กำเนิดจากสัตว์โดยธรรมชาติ ไม่ต้องมีพิธีปรุงเสกใดๆ เพราะสิ่งเหล่านี้ ว่ากันว่ามีอิทธิฤทธิ์ ฤทธิ์เดชมากมายเหลือคณา เขากวางหด     เขากวางหด หรือ เขากวางคุด เป็นเขาที่ไม่ได้ขึ้นตามปกติเฉกเช่นเขาทั้งสองข้าง แต่จะขึ้นที่กลางหน้าผาก หรือกลางหัว มีลักษณะผิดปกติ ไม่เติบโตยืดยาวเป็นก้าน แต่จะคุดเป็นก้อนปมตะปุ่มตะป่ำอยู่ที่โคนเขา มีตั้งแต่สามยอด ห้ายอด เจ็ดยอด เก้ายอดถือว่าดีที่สุด แต่หากมีเป็น เขากวางคุดสิบสองยอด จะถือว่าของศักดิ์สิทธิ์ชั้นยอดเยี่ยม ฤทธิ์อำนาจ : มหาอุตย์ คงกระพัน มหาอำนาจ โชคลาภ ป้องกันภยันตรายทั้งปวง เดือยงูเหลือม     เป็นอวัยวะชนิดหนึ่งที่สามารถงอกออกมาได้บริเวณข้างๆรูถ่าย ซึ่งจะมีเฉพาะพญางูเหลือม หรืองูเหลือมเพศผู้ที่มีอายุมากเท่านั้น ฤทธิ์อำนาจ : เป็นเลิศในด้านเสี่ยงโชค โชคลาภและค้าขาย เมตตามหานิยม กระดูกงูเหลือม   … Read more

10 เครื่องรางของขลังจากสัตว์ (Part 1)

    เครื่องรางของขลังคือสิ่งที่อยู่คู่กับความเชื่อคนไทยมาตั้งแต่สมัยบรรพกาล สืบทอดกันจากรุ่นสู่รุ่น แม้จะไม่มีสิ่งใดพิสูจน์ได้ว่าความเชื่อเหล่านั้น นั้นแท้จริงหรือหลอกลวง แต่สิ่งเหล่านี้นั้นยังคงเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวของคนไทยเสมอมา    เครื่องรางของขลังล้วนมีที่มาจากหลากหลายที่มา มีทั้งสร้างขึ้นเอง หรือกำเนิดจากธรรมชาติ และวันนี้เราจะขอนำเสนอเครื่องรางของขลังที่กำเนิดจากสัตว์โดยธรรมชาติ ไม่ต้องมีพิธีปรุงเสกใดๆ เพราะสิ่งเหล่านี้ ว่ากันว่ามีอิทธิฤทธิ์ ฤทธิ์เดชมากมายเหลือคณา เขี้ยวเสือกลวง     ปกติแล้ว เขี้ยวเสือทั่วไปจะมีลักษณะตัน แต่ถ้าเขี้ยวเสือที่มีลักษณะพิเศษ ด้านในจะกลวงตั้งแต่รากฟัน จนเกือบถึงปลายเขี้ยว ถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์หายาก และมีฤทธิ์เดชมากนัก ฤทธิ์อำนาจ : คงกระพัน ฟันแทงไม่เข้า เขี้ยวหมูตัน     โดยปกติ เขี้ยวหมูป่าด้านในจะเป็นรูกลวงตั้งแต่รากฟันขึ้นไปอย่างน้อยครึ่งเขี้ยว หรืออาจจะถึงปลายเขี้ยว แต่ถ้าเขี้ยวซี่ไหนด้านในนั้นตัน จะถือว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์หายาก มีออิทธิฤทธิ์อำนาจ ควรค่าแก่การบูชา ฤทธิ์อำนาจ : คงกระพัน ใช้เป็นเครื่องรางป้องกันภันอันตรายจากศาตราวุธ ช้องหมูป่า     ช้องหมูป่าคือเส้นขนพิเศษของหมูป่า จะขึ้นตามลำตัวและส่วนหัวของหมูป่า โดยเฉพาะที่ส่วนหัว และระหว่างคิ้ว จะมีความยาวกว่าตรงอื่น     บางตำรากล่าวว่า … Read more

เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย

ประวัติเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย      เทพเจ้า “ไฉ่ซิงเอี้ย” หรือ “ไฉ่เสินเย่” (Cái-shén-yé) ตามความเชื่อแล้ว เป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวย มั่งคั่ง และโชคลาภด้านเงินทอง คนไทยเชื้อสายจีนจึงนิยมกราบไหว้ในวันสำคัญต่าง ๆ โดยการกราบไหว้ขอพรจากท่าน จะทำให้กิจการเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า ประสบความสำเร็จ และนำมาซึ่งโชคลาภเงินทอง นอกจากนี้ เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ยยังช่วยดลบันดาลหรือช่วยเหลือให้ผู้ที่บูชามีโชคลาภนอกจากรายได้ประจำ ตลอดจนความโชคดีต่าง ๆ ด้วย           สำหรับชาวจีน เทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ยถือเป็นเทพเจ้าที่มีความสำคัญมากที่สุดในช่วงเปลี่ยนปีนักษัตร (ช่วงขึ้นปีใหม่) ในแต่ละปีท่านจะลงมาจากสวรรค์เพียงวันเดียวเท่านั้นคือวันตรุษจีน ดังนั้น เมื่อเริ่มเข้าสู่วันตรุษจีน ชาวจีนจะตั้งโต๊ะบูชากราบไหว้ท่านเป็นองค์แรก ตั้งแต่เที่ยงคืนเป็นต้นไป (ส่วนมากจะเริ่มบูชาตั้งแต่ 23.00-01.00 น. ของวันตรุษจีน) โดยต้องหันหน้าไปทางทิศต่าง ๆ ที่เชื่อว่าไฉ่ซิงเอี้ยจะเสด็จลงมา ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแต่ละปี อย่างในปี 2564 เทพไฉ่ซิงเอี้ยเสด็จลงมาทางทิศตะวันออก การบูชาเทพเจ้าไฉ่ซิงเอี้ย   เครื่องสักการะ บูชาเทพเจ้าแห่งโชคลาภ           1. รูปภาพ หรือรูปปั้น (หากไม่มีเวลาไหว้ก็ให้ตั้งจิตรำลึกถึงท่าน)          2. แจกันดอกไม้สด 1 คู่          … Read more